สำหรับคุณแม่หลังคลอดบุตร
(Foods that help increase breast-milk for new Moms)
ผัก สมุนไพร พื้นบ้านของไทยเป็นอาหารเพิ่มน้ำนม สำหรับคุณแม่หลังคลอดบุตรได้ดีเป็นอย่างยิ่ง อาหารที่เชื่อว่ามีสรรพคุณในการเพิ่มน้ำนมนั้น เป็นอาหารที่มีรสร้อน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้น้ำนมมากขึ้น มีดังนี้ค่ะ
หัวปลี
คุณค่า : อุดมไปด้วยแคลเซียม (มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า) โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบต้าแคโรทีน
สรรพคุณ : แก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ตั้งแต่โบราณสอนกันต่อๆมาว่าผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ ให้รับประทานหัวปลีมากๆ จะได้มีน้ำนมให้เลี้ยงลูกนานๆ
อาหารแนะนำ : แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ลวกจิ้วน้ำพริก (เวลาลวกให้ใส่เกลือและน้ำตาลลงในน้ำที่ตุ้มด้วย จะได้ลดความฝาด) ทอดมันหัวปลี หัวปลีชุบแป้งทอด
ใบกระเพรา
คุณค่า : มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใย อาหารสูง
สรรพคุณ : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน ลดอาการปวดข้อ ปวดเข่า ลดเบาหวาน ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น
อาหารแนะนำ : ใส่แกงเลียง ผัดกระเพรา แกงป่าหรือผัดเผ็ดต่างๆ เพราะในใบกระเพรามีกลิ่นหอมช่วยดับกลิ่นและรสคาวของเนื้อสัตว์ได้ดีใบกระเพราที่ต้องซื้อ รสเผ้ดร้อน หรือคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยอาจจะลดน้อยลง เนื่องมาจากสถานที่ปลูก และปัจจุบันมีการใส่ปุ๋ยเร่งกันมากขึ้นลองสังเกตดูว่าคความฉุนของใบลดน้อยลงมาก
กุยช่าย
คุณค่า : แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต เบต้าแคโนทีน วิตามินซี
สรรพคุณ : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
อาหารแนะนำ : นำส่วนดอกมาผัดกับเนื้อสัตว์ หรือนำใบมากินสดแกล้มกับอาหารอื่นๆแต่ที่นิยมคือ ใส่ผัดไท
กานพลู
คุณค่า : น้ำมันที่อยู่ในดอกกานพลู มีส่วนประกอบสำคัญคือ Eugenol ที่มีฤทธิ์ต่อร่างกาย
สรรพคุณ : มีฤทธิ์ช่วยขับน้ำดีเพื่อนำไปย่อยอาหาร ลดอาการบีบตัวของลำไส้บรรเทาอาการแน่น จุกเสียด ลดความเป็นกรดในลำไส้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร
อาหารแนะนำ : นำดอกตูมแห้งมา 5 – 8 ดอก ชงในน้ำเดือด แล้วดื่มแต่น้ำ
มะละกอ
คุณค่า : มีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และมีเอนไซม์ ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ ร่างกาย รวมถึงมีเส้นใยอาหารมาก
สรรพคุณ : บำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด
อาหารแนะนำ : รับประทานผลไม้สุกเป็นผลไม้ หรือถ้าแบบดิบ มักจะนำมาใส่แกงส้ม ส้มตำ
ฟักทอง
คุณค่า : ฟักทองมีสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงร่างกายเยอะมาก ทั้งวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน
สรรพคุณ : ช่วยเสริมสร้างคลอลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส และอาจจะช่วยให้หน้าท้องลายน้อยลง
อาหารแนะนำ : ฟักทองผัดไข่ แกงเลียง ฟักทองนึ่ง แกงบวดฟักทอง ไข่เจียวฟักทอง
ขิง
คุณค่า : มีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ บี1 บี2 คาร์โบไฮเดรต
สรรพคุณ : ขับลม แก้อาเจียน ช่วยย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการอาเจียน และเชื่อว่าเมื่อคุณแม่รับประทานเข้าไป สรรพคุณที่ดีของขิงจะผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก ทำให้ลูกไม่ปวดท้อง
อาหารแนะนำ : ยำขิง ยำปลาทูใส่ขิง ไก่ผัดขิง มันหรือถั่วเขียวต้มน้ำขิง ไข่หวานน้ำขิงต้มอุ่นๆ โจ๊กใส่ขิง
ใบแมงลัก
คุณค่า : มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซีสูง
สรรพคุณ : ใบแมงลักมีรสหอมร้อน ขับลม ขับเหงื่อ
อาหารแนะนำ : ใส่แกงเลียง กินสดแกล้มกับขนมจีน หรือใส่แกงป่าต่างๆ
พืชผักชนิดต่างๆ ที่กล่าว สังเกตให้ดีๆจะเห็นว่า พืชผักที่คนโบราณบอกให้รับประทานเพื่อเรียกน้ำมันนั้น ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ให้ความร้อนแก่ร่างกาย ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปอย่างปกติ และประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอย่าง แคเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แต่คุณแม่ก็ต้องรับประทานอาหารชนิดต่างๆ ให้ครบทุกหมวดหมู่
รวมถึงผลไม้ เพื่อให้ระบบการย่อยทำงานให้เป็นปกติส่วนการดื่มน้ำอุ่น ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ให้นมลูกทุกท่านต้องหมั่นดื่มบ่อยๆ ทั้งวันโดยเฉพาะช่วงต้นของการให้นมลูก เป็นการเรียกน้ำนมได้ดีอีกทางหนึ่ง และที่ต้องย้ำอีกครั้งคือ ต้องให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอตามที่ลูกต้องการ ถ้าเกิดอาการนมคัด หัวนมแข็ง ก็ต้องบีบให้น้ำนมไหลออกบ้างก่อนให้ลูกดูด ไม่เช่นนั้นลูกดูดไม่ออก พาลจะไม่ยอมดูดนมแม่ในครั้งต่อๆ ไป
credit: www.baby2talk.com