Wednesday, October 10, 2012

13 สถานที่กินเจ ในเทศกาลกินเจทั่วไทย ปี 2555 (Thailand Vegetarian Food Festival 2012)



เทศกาลกินเจ หรือประเพณีการกินเจ เป็นเทศกาลที่ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ที่ถือเป็นประเพณีปฏิบัติกันมายาวนานหลายยุคหลายสมัย โดยกำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนทุกๆ ปี รวม 9 วัน 9 คืน

ซึ่งเทศกาลกินเจ หรือประเพณีการกินเจ ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2555 สำหรับใครที่ชอบความคึกคักแห่งงานบุญ สามารถไปร่วมอิ่มทาน กับ 9 สถานที่กินเจในปี 2555 นี้ได้ ซึ่งจะมีจัดอยู่ทั่วทั้งประเทศ ดังต่อไปนี้


1. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ เยาวราช จ.กรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่ 15 - 23 ตุลาคม 2555

ขอเชิญชวนชาวไทยเชื้อสายจีนร่วม กินเจ อย่างถูกประเพณี 10 วัน 9 คืน เพื่อสืบสานตำนานการกินเจอย่างถูกต้องตามหลักประเพณี ระหว่างวันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2555 ชมขบวนแห่รถบุปผาชาติในวันพิธีเปิดงาน และพิธีคัดเลือก “องค์สมมติเจ้าแม่กวนอิม” จากสาวพรหมจรรย์

เขตสัมพันธวงศ์ จัดงาน "เทศกาลงานเจ เยาวราช ประจำปี 2555" ชวนชาวไทยเชื้อสายจีนร่วมทานเจอย่างถูกประเพณี เพื่อสืบสานตำนานการกินเจอย่างถูกต้องตามหลักประเพณี โดยในปีนี้มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 15 - 23 ตุลาคม 2555 และมีขบวนแห่รถบุปผชาติในวันพิธีเปิดงาน นอกจากนี้ ยังมีพิธีคัดเลือก "องค์สมมุติเจ้าแม่กวนอิม" จากสาวพรหมจรรย์อีกด้วย

2. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ โรงเจ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ ธรรมสถาน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ตั้งแต่ 14 - 24 ตุลาคม 2555

เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาแต่งกายชุดขาวเข้าร่วมงาน “มหากุศล อิ่มบุญ อิ่มใจ” ในงานเทศกาลกินเจ เมืองพัทยา ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 14-24 ตุลาคม 2555 ณ โรงเจ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ ธรรมสถาน ต.นาเกลือ

โดยเมืองพัทยาร่วมกับมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน ททท. สำนักงานพัทยา หน่วยงานภาครัฐ – เอกชนในพื้นที่ ไฮไลต์เด่นของ เทศกาลกินเจ ปีนี้ คือ “ข้าวผัดทิพย์ 85 กระทะมหามงคล” เป็นรายการข้าวผัดเฉลิมฉลองมหามงคลที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา โดยใช้สมุนไพรจีนสิริมงคลกว่า 16 รายการ ผัดในกระทะขนาดปกติ จำนวน 85 ใบ โดยผู้ผัดจำนวน 85 คน เพื่อแจกจ่ายให้บรรดาสาธุชนที่เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ในวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นวันแรกของการเริ่มถือศีลอด เมืองพัทยาได้จัดให้มีขบวนสิงโต มังกร เทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อชาวไทยเชื้อสายจีนรอบเมืองพัทยาอีกด้วย

3. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ตั้งแต่ 14 - 23 ตุลาคม 2555

เทศบาลนครหาดใหญ่ ขอเชิญร่วมงาน "เทศกาลกินเจหาดใหญ่ 2555" ในวันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2555 บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ ตรงข้ามมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ พบกับการแข่งขันกินอาหารเจ การแสดงบนเวที การประกวดหนูน้อยสมบูรณ์และธิดากินเจ สาธิตการปรุงอาหารเจสูตรพิเศษ "เมนู 9 มงคล" จากเหล่าคนดัง รับผลิตภัณฑ์จากผู้สนับสนุนมากมาย ร้านอาหารเจกว่า 120 ร้าน "กินเจ ถูกปาก ถูกใจ ถูกอนามัย ไร้แอลกอฮอล์" โชว์มังกรทองพ่นนํ้า - สิงโตเล่นจานดอกเหมย จากจังหวัดนครสวรรค์ทุกคืน

และขอเชิญร่วมพิธีเปิดงาน วันที่ 15 ตุลาคม 2555 เวลา 16.00 น. พบขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ พร้อมร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรับพรจากคณะสงฆ์ สร้างกุศลเพื่อความสุข ความแข็งแรง ความมั่งมี ด้วยการร่วมทำทานบุญ พิเศษสุด ๆ กิจกรรม "ทานบุญ" กินอย่างพอเพียงเลี้ยงคนทั้งเมือง เชิญชมขบวนแห่พระรอบเมืองหาดใหญ่ ที่ยิ่งใหญ่ตระกาลตา พบกับขบวนมังกรทอง-สิงโต, ขบวนเทพเจ้า, ขบวนคนเดิน, ขบวนม้าทรงจากศาลเจ้าต่าง ๆ เริ่มขบวน ณ บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ ตรงข้ามมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ วันที่ 20 ตุลาคม 2555 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

สอบถามข้อมูล เทศกาลกินเจ หาดใหญ่ 2555 : www.kinjhatyai.com / facebook/Kinjfan / ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทร. 0 7423 1055

4. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ ศาลเจ้า 9 แห่ง จ.สมุทรสาคร
ตั้งแต่ 14 - 23 ตุลาคม 2555

ร่วมกับเทศบาลนครสมุทรสาคร ศาลเจ้า 9 แห่ง ชมรมร้าน อาหารเจ สมุทรสาคร และ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม กำหนดจัดงาน “ประเพณีไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ สมุทรสาคร ประจำปี 2555″ ตั้งแต่วันที่ 14 – 23 ตุลาคม 2555 ณ บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และศาลเจ้า 9 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ทัวร์ไหว้เจ้าศักดิ์สิทธิ์ 9 ศาล ได้แก่ 

1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร
2. โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
3. ศาลเจ้าปุนเถ้ากง คลองมหาชัย
4. ศาสเจ้าแม่กวนอิมพันมือ คลองจาก
5. ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย
6. โรงเจเชงเฮียงตั๊ว
7. ศาลเจ้าพ่อกวนอู
8. ศาลเจ้าปุนเถ้ากง ท่าฉลอม
9. พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม

พร้อมอิ่มบุญกับ อาหารเจ อร่อย สะอาด จากชมรมร้านอาหารเจกว่า 50 ร้าน ณ บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสมุทรสาคร โทรศัพท์ 0 3441 1208 หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0 3475 2847

5. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ ศาลเจ้า(อ๊าม) 6 แห่ง จ.ภูเก็ต 
ตั้งแต่ 15 - 23 ตุลาคม 2555

ขอเชิญร่วมงาน “ประเพณีถือศีลกินผัก” ระหว่างวันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2555 อิ่มบุญ เสริมบารมี ในช่วงงาน กินเจ ภูเก็ต พร้อมชมพิธีกรรมแห่พระ ลุยไฟ ไต่บันไดมีด และพิธีสะเดาะเคราะห์จากทุกศาลเจ้าทั่วเกาะภูเก็ต เสริมบารมีให้ตนเองด้วยการทำบุญเขียนชื่ออักษรจีนบนเม็ดข้าวสารศักดิ์สิทธิ์จากศาลเจ้าปุดจ้อ (ศาลเจ้ากวนอิม จังหวัดภูเก็ต) ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันประเพณีกินผักถือเป็นจุดขายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญ ของ เทศกาล กินเจ ภูเก็ต และ ศาลเจ้าชื่อดัง หรือ อ๊าม ชื่อที่ชาวภูเก็ตนิยมเรียกกัน ในจังหวัดภูเก็ตมีทั้งหมด 6 แห่ง คือ

1. ศาลเจ้า(อ๊าม) กระทู้ ที่บ้านกระทู้ อำเภอกะทู้
2. ศาลเจ้า(อ๊าม)ท่าเรือ ที่บ้านท่าเรือ อำเภอถลาง
3. ศาลเจ้า(อ๊าม) จุ้ยตุ่ย ที่ถนนระนอง อำเภอเมืองภูเก็ต
4. ศาลเจ้า(อ๊าม) หล่อโรง ที่ถนนพัฒนา อำเภอเมืองภูเก็ต
5. ศาลเจ้า(อ๊าม) บางเหนียว ที่ถนนภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต
6. ศาลเจ้า(อ๊าม) สามกอง ที่ถนนเยาวราช อำเภอเมืองภูเก็ต

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์ 0 7621 2213

6. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองระนอง จ.ระนอง
ตั้งแต่ 14 - 23 ตุลาคม 2555

จังหวัดระนอง ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ ร่วมแสวงบุญเข้าร่วมงานประเพณี ถือศีล กินผัก ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2555 ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมการเชิดมังกรทองและสิงห์โตกวางเจา, ลานเทศกาลอาหารเจ, พิธีกรรมทางพระทุกค่ำคืนตลอดงาน และพิธีอิ้วเก้ง แห่พระรวม 339 องค์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานชุมพร (ชุมพร ระนอง) โทรศัพท์ 0 7750 1831 - 2 และ 0 7750 2775 – 6


7. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ บริเวณหน้าเทศบาลนครตรัง จ.ตรัง
ตั้งแต่ 14 - 23 ตุลาคม 2555

ขอเชิญร่วมงานประเพณี ถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 14 – 23 ตุลาคม 2555 บริเวณหน้าเทศบาลนครตรัง อิ่มบุญกับการถือศีล กินเจ พร้อมนุ่งขาวห่มขาวเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ชมขบวนแห่พระรอบตลาดเมืองตรัง ชมพิธีลุยไฟที่ศาลเจ้ายามค่ำคืน ทำพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ ชมการไต่บันไดมีด และร่วมกิจกรรมเวียนธูปเวียนเทียน การประกวดธิดาเจ้าแม่กวนอิม และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม บริเวณหน้าเทศบาลนครตรัง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครตรัง โทรศัพท์ 0 7521 8017, ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม โทรศัพท์ 0 7521 9434, ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี่ย โทรศัพท์ 0 7520 1701 และ ททท.สำนักงานตรัง โทรศัพท์ 0 7521 5867, 0 7521 1058

8. เทศกาลถือศีลกินเจ ทั่วเมืองโคราช จ.นครราชสีมา
15 - 23 ตุลาคม 2555


กำหนดจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจ เมืองโคราช  9 วัน  ระหว่างวันที่ 15 – 23 ตุลาคม 2555 ทั่วเมืองโคราช สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น อาทิ พิธีอัญเชิญเทพเจ้าประทับทรงแห่รอบเมืองโคราช (อิ้วเก้ง) กับ25 ศาลเจ้าและพระตำหนักรอบเมืองโคราช (ในวันที่ 18 ตุลาคม 2555 เริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 08.59 น.) สุดยิ่งใหญ่อลังการ  การทำพิธี  สวดมนต์ – เดินธูป ข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี (โกยห่าน “ขอเชิญทุกท่านที่ชื่นชอบในเรื่องราวของการเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนา ได้ร่วมทำบุญอันเป็นมหากุศล กับเทศกาลถือศีลกินเจ เมืองโคราช และยังจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังเส้นทางไหว้พระโคราช เส้นทางศรัทธามหามงคล 9 มงคลสถาน 2 วิหารลานบุญ รวมถึงกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ ได้ทั่วเมืองโคราช

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมไทย จีน ถือศีลกินเจโคราช โทรศัพท์ 0 4434 1222, 08 1966 5688, 08 6638 และ ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0 4421 3030, 0 4421 3666

9. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ ศาลเจ้าต่าง ๆ ใน จ.พังงา
14- 23 ตุลาคม 2555

จังหวัดพังงา ร่วมด้วยศาลเจ้าต่าง ๆ ในจังหวัด หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ จัดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดประเพณีอันดีงาม ซึ่งระหว่างถือศีลกินผักชาวบ้านจะแต่งกายชุดขาวไปรับอาหารจากศาลเจ้า มีพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น พิธีลุยไฟ พิธีบวงสรวงดาวประจำวันทั้งเจ็ด พิธีสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ และมีพิธีแห่เจ้ารอบตัวเมืองไปตามถนนต่าง ๆ เพื่ออวยพรเสริมสิริมงคลให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163

10. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ ศาลเจ้าแม่กวนอิม จ.นราธิวาส
1 - 31 ตุลาคม 2555

เชิญร่วมงาน ประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2555 ณ ศาลเจ้าแม่กวนอิม จังหวัดนราธิวาส ไปร่วมพิธีสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐประชาชนจีน พิธีเบิกเนตรพระ ร่วมพิธีอาบน้ำร้อน-อาบน้ำมัน พิธีลุยไฟ พิธีสะเดาะเคราะห์ พร้อมตื่นตากับการแสดงเชิดสิงโต และหนังตะลุงคน

ร่วมพิธีสักการะพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐประชาชนจีน พิธีเบิกเนตรพระ ร่วมพิธีอาบน้ำร้อน-อาบน้ำมัน-พิธีลุยไฟและพิธีสะเดาะเคราะห์ทุกคืน ชมการแสดงเชิดสิงโต และหนังตะลุงคน
** กำหนดการจัดงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทาง **

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนราธิวาส โทรศัพท์ 0 7352 2411 และ ศาลเจ้าแม่กวนอิม จังหวัดนราธิวาส โทรศัพท์ 0 7353 2372

11. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ วัดบรมราชากาญจนาภิเษก (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) และบริเวณตลาดรวมใจ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
14- 23 ตุลาคม 2555

ขอเชิญร่วมงาน เทศกาลถือศีลกินเจบริเวณ วัดบรมราชากาญจนาภิเษก (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กำหนดการจัดงานวันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555

โดยจะมีกิจกรรมการประกอบอาหารเจ จากอาหารประจำชาติอาซียน จำนวน 10 ชาติ มีขบวนเชิดสิงโตนำโชค, ขบวนรถบุผชาติ พระโพธิสัตว์กวนอิม การจัดบริการโรงทานอาหารเจฟรีให้แก่ผู้มีจิตศรัทธา จำนวน 10 วัน, การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารเจกับกลุ่มประเทศอาเซียน, ประวัติการกินเจ และการจัดงานเทศกาลกินเจที่ผ่านมา ส่วนการจัดพิธีกรรมทางศาสนา ได้แก่ พิธีบูชาข้าวทิพย์, พิธีลอยกระทง-ปล่อยสัตว์เสริมบารมี, บูชาดาวนพเคราะห์, พิธีโยคะตันตระมหาทาน, พิธีถวายฉลองพระองค์ แด่องค์กิ่วอ๊วงฮุกโจ้ว, พิธีส่งเสด็จพระนวราชา (กิ่วอ๊วงฮุกโจ้ว)

และเทศกาลกินเจบริเวณ ตลาดรวมใจ เมืองทองธานี

12. เทศกาลถือศีลกินเจ ณ บริเวณมูลนิธิธรรมะกตัญญู (เสียนหลอไต่กง) และโรงเจท่งเสียงปากน้ำ จ.สมุทรปราการ
14- 23 ตุลาคม 2555

เทศกาลถือศีลกินเจ บริเวณมูลนิธิธรรมะกตัญญู (เสียนหลอไต่กง) และโรงเจท่งเสียงปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ กำหนดการจัดงานวันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 โดยจะมีกิจกรรมเทศกาลอาหารเจ

เทศกาลกินเจเดือนเก้า ณ โรงเจมูลนิธินาคราชโยธาชัย ( เต็กก่าจี่เกี่ยมเกาะ) กำหนดการจัดงานวันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 โดยจะมีกิจกรรมเดินเวียนธูป เชิดมังกร / สิงโต ไปอัญเชิญพระไตรปิฎก ที่ท่าน้ำหลังองค์พระสมุทรเจดีย์ เพื่อประกอบพิธีเชิญกิ๋วอ๊วงฮุกโจ้วเปิดมณฑลพิธีกินเจเดือนเก้า

13. เทศกาลกินเจ ณ โรงเจทั่วเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
14- 23 ตุลาคม 2555

เทศกาลกินเจ ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร วันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 จัดสถานที่ให้ประชาชนนำสิ่งของมาบูชา และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ร่วมทำบุญ เลี้ยงอาหารเจ 3 มื้อ

เทศกาลกินเจ ณ โรงเจเต็กก่า สมาคมนักบุญเพื่อคุณธรรม "เต็กก่า" ข้างโรงภาพยนต์เจ้าพระยา(เก่า) วันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 มีกิจกรรมพิธีสวดมนต์ทำวัดร เช้า-เย็น สวดมนต์ถวายพุทธบูชาพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอริยเจ้า ทั่วทั้งสิบทิศ พิธีถวายสักการะบูชาองค์เง็กเซียน ฮ่องเต้และปวงเทวอาจารย์ (ก้งซือ) และทุกวัน ในเวลา 19.00 น. จัดให้มีพิธีสวดมนต์ขมากรรม และเวียนธูปเป็นประจำทุกคืน

เทศกาลกินเจ ณ โรงเจบ้วนเฮงตั๋ว วันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 มีกิจกรรมสวดมนต์ทำวัตรจัดโรงทานอาหารเจ 3 มื้อ มีการเวียนเทียนเดินธูปทุกคืน ตั้งแต่ 19.00 น. ทุกคืนมีภาพยนต์ฉาย จัดทัวร์เดินทางนมัสการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเจวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา และโรงเจท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มีพิธีลอยกระทงและทิ้งกระจาดแจกข้าวสาร

เทศกาลกินเจ ณ โรงเจกิมเฮงตั้ว วันที่ 14- 23 ตุลาคม 2555 มีกิจกรรมสวดมนต์ทำวัตรจัดโรงทานอาหารเจ 3 มื้อ มีการเวียนเทียนเดินธูป ทุกคืน ตั้งแต่ 19.00 น.



เครดิตข้อมูล:
http://travel.mthai.com
http://www.chillpainai.com
http://www.tatnewsthai.org 
เครดิตภาพ: Internet


Monday, October 8, 2012

เต้าหู้ แหล่งคุณค่าอาหารที่ควรรู้จัก (TOFU)

เต้าหู้ กำเนิดมากว่า 2,000 ปีในจีนแผ่นดินใหญ่ คนจีนบางกลุ่มถือว่าเต้าหู้เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงที่อยู่ในความธรรมดาสามัญ คนไทยเรียกเต้าหู้เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า 豆腐 อ่านว่า โตวฟู คนฮกเกี้ยนเรียกว่า ต้าวหู้ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โทฟุ (tofu) คนอังกฤษเรียก bean curd หรือบางครั้งก็เรียกทับศัพท์ว่า tofu เช่นกัน ส่วนชาวฝรั่งเศสเรียกว่า fromage de soja (ชีสถั่วเหลือง)

เต้าหู้ก้อนแรกเกิดขึ้นในประเทศจีน เล่าขานกันว่า เจ้าชายหลิวอัน (พระนัดดาของจักรพรรดิหลิวปัง กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ฮั่น) สั่งให้พ่อครัวบดถั่วเหลืองให้เป็นผงแล้วนำไปต้มเป็นน้ำซุปด้วยเกรงว่ารสจะจืดเกินไป จึงโปรดให้พ่อครัวเติมเกลือลงไปปรุงรส เพื่อถวายพระมารดาซึ่งประชวรหนักจนไม่มีแรงที่จะเคี้ยวอาหารได้ น้ำซุปถั่วเหลืองนั้นค่อยๆ จับตัวข้นเป็นก้อนสีขาวนุ่มๆ เมื่อพระมารดาเสวยแล้วถึงกับรับสั่งว่า “อร่อย” เจ้าชายจึงให้เหล่าพ่อครัวค้นหาสาเหตุ จึงพบว่าเกลือบางชนิดมีผลทำให้ผงถั่วเหลืองผสมน้ำเกิดการเกาะตัวขึ้นเป็นเต้าหู้

เต้าหู้ ทำได้โดยเอาเมล็ดถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนอิ่มตัวมาบดกับน้ำจนละเอียด กรองเอาแต่น้ำที่ได้  มาต้มแล้วนำ มาใส่สารตกตะกอนโปรตีน  โปรตีนก็จะจับตัวเป็นก้อนสีขาวนวล คนจีนเรียกว่า "โดฟู" หรือ "เตาฟู" (tau fu) ซึ่ง แปลว่าถั่วเน่า จีนฮกเกี้ยนเรียกเพี้ยนเป็น "เตาฮู" ซึ่งไทยเรา เรียกตามเป็นเต้าหู้ ภาษาญี่ปุ่นเรียกเพี้ยนเป็น "เตาฟู" ซึ่งอังกฤษเรียกตามว่า TOFU ฝรั่งเศส เรียกเต้าหู้ว่า fromage de soja หรือ "ชีสถั่วเหลือง" เต้าหู้มีหลากหลายชนิด ทั้งแแข็ง และแบบอ่อน แบบทอดกับแบบไม่ทอด แบบเนื้อหยาบกับเนื้อละเอียด แบบ ฟูกับไม่ฟู เป็นต้นแต่ความแตกต่างเหล่านี้

อาจสรุปได้ง่ายๆว่าเป็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมเต้าหู้แบบจีน กับแบบญี่ปุ่น ครัวจีนใช้เต้าหู้เป็นตัวประกอบกับเครื่องปรุงอื่นๆในการทำอาหาร เพราะฉนั้นรสชาติของเต้าหู้จึงขึ้นกับการ ปรุงอาหารจาน นั้นๆเป็นสำคัญ แต่ครัวญี่ปุ่นเน้นจานอาหาร ที่เชิดชูเนื้อและรสชาติของเต้าหู้ ด้วยเหตุนี้ ครัวญี่ปุ่นจึงพัฒนาเต้าหู้หลากหลายชนิดที่รสชาติดี  ด้วยตัวเอง เช่น เต้าหู้ขาวแข็ง (momengoshi) เต้าหู้ขาวอ่อน (silk tofu หรือ kinugoshi) เต้าหู้ปิ้ง (yaki-dofu) เต้าหู้แช่แข็ง (koya-dofu) ที่สามารถเก็บได้นาน และต้องต้ม เมื่อจะใช้และ yuba หรือแผ่นฟองเต้าหู้ เต้าหู้ทอด ซึ่งมีทั้งแผ่นบางและหนา (nama- age) เป็นต้น

กรรมวิธีการเตรียมอาหารจีนและญี่ปุ่นจากเต้าหู้นั้นแตกต่างกัน คือ คนจีนพยายามดัดแปลงเต้าหู้ในรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น อาจเปลี่ยนรูปทรงหรือรสชาติไป ในขณะที่คนญี่ปุ่นกลับพยายามรักษาความเรียบง่ายรวมทั้งรสชาติ รูปทรงและสีสันของเต้าหู้ให้คงไว้อย่างเดิมให้มากที่สุด พร้อมกับเสิร์ฟในจานหรือถ้วยที่สวยงามจนถือว่าเป็นศิลปะขั้นสูงแขนงหนึ่ง

ขณะที่เต้าหู้จีนมีน้อยชนิด เนื้อหยาบและแข็งกว่า สำหรับในอาหารไทยเรา สามารถแบ่งนำเต้าหู้ทั้งแบบจีนและญี่ปุ่นมาปรุงอาหารได้ โดยใช้เป็นตัวประกอบ กับ เครื่องปรุง อื่นๆ ดัง เช่น ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดผักรวมมิตร เป็นต้น และเป็นเครื่องปรุงหลักเช่น เต้าหู้ ทอด เต้าหู้หน้าเห็ด เต้าหู้เค็ม เป็นต้น ด้วยอาหารไทยนี้สามารถนำเอาวัฒนธรรมการกินของหลายๆชาติเข้าร่วมได้อย่างกลมกลืน

ชนิดของเต้าหู้

เต้าหู้ชนิดอ่อน หรือเต้าหู้ชนิดนิ่ม
เต้าหู้อ่อนหรือเต้าหู้นิ่ม บางครั้งเรียกว่า "เต้าหู้แกงจืดหรือเต้หู้กระดาน" มีสีขาวนวล เนื้อนุ่ม มีน้ำมากหอมกลิ่นถั่ว มีแบบนิ่มมากกับนิ่มปานกลางที่มีเปลือก ซึ่งจะหนากว่าแบบนิ่มมาก นิยมใช้ทำแกงจืด นึ่ง ผัด อบ ทอด และทำน้ำพริกเครื่องจิ้มต่างๆ เลือกซื้อเต้าหู้ที่ทำใหม่ๆในช่วงเช้า สีขาวนวล เป็นชิ้นสวย ไม่เละ ไ่ม่เป็นเมือก หอมกลิ่นถั่ว นำไปล้างน้ำแล้วต้มจนสุกลอยก่อนทำอาหารจำทำให้เนื้อเต้าหู้แน่นหนึบยิ่งขึ้น

- เต้าหู้ชนิดเหลืองนิ่ม วิธีการทำต่างจากเต้าหู้ขาวแข็ง เพราะใช้แคลเซียมซัลเฟต (ผงยิปซัม หรือที่เรียกในภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "เจี๊ยะกอ(石膏)") ในการทำให้โปรตีนในน้ำนมถั่วเหลืองตกตะกอน ซึ่งเนื้อจะเนียนและไม่แข็งเท่าเต้าหู้ขาวแข็ง เมื่อตกตะกอนแล้วนำมาใส่ผ้าขาวบางห่อในบล็อกให้เป็นก้อนแล้วนำไปต้ม ใส่ขมิ้นให้ได้สีเหลือง ทำให้มีรสเค็มกว่าเต้าหู้ขาว มีกลิ่นหอมและเก็บไว้ได้นาน คุณสมบัติเด่นของเต้าหู้เหลืองนิ่มคือ เมื่อนำไปทอดแล้วจะทำให้ได้เต้าหู้ที่กรอบนอกนุ่มใน เต้าหู้ชนิดนี้เหมาะที่จะนำไปผัดกับกุยช่ายขาว ทอดจิ้มน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ทอดกินกับน้ำพริกกะปิหรือทอดจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้ และยังสามารถนำไปนึ่ง ทำแกงจืด ผัดต่างๆ หรือหั่นเป็นชิ้นนำไปทอดกินแนมกับน้ำพริก หรือใส่้เป็นเครื่องปรุงในยำทวาย ได้อีกด้วย

เต้าหู้ชนิดเหลืองนิ่ม
  
- เต้าหู้ชนิดขาวอ่อน (silk tofu หรือ kinugoshi) ลักษณะอ่อนนุ่มกว่าเต้าหู้เหลืองนิ่ม กรรมวิธีการผลิตเหมือนกับเต้าหู้เหลืองนิ่มจะต่างกันเพียงเวลาในการทำน้อยกว่า เต้าหู้ชนิดนี้นิยมนำไปทำเป็นแกงจืด เต้าหู้นึ่งหรือสเต๊กเต้าหู้

เต้าหู้ชนิดขาวอ่อน
  
- เต้าหู้ชนิดห่อผ้า วิธีการทำเหมือนกับเต้าหู้ชนิดขาวอ่อน ต่างกันเพียงการบรรจุหีบห่อที่นำมาห่อผ้าแล้วมัดทำให้แข็งและคงรูปร่างได้ดีมากขึ้นเมื่อนำไปทำอาหาร ส่วนใหญ่จะนำไปทำเต้าหู้ทรงเครื่องหรือแกงจืด

เต้าหู้ชนิดห่อผ้า
เต้าหู้ชนิดแข็ง
เต้าหู้ชนิดแข็ง จะมีลักษณะเนื้อแน่น แข็ง สีขาวนวลออกครีมๆ มีกลิ่นถั่วแรงกว่าเต้าหู้อ่อน ทำอาหารได้ทั้งแกง ต้ม ตุ๋น อบ ทอด ยำ ลาบ หมูสะเต๊ะ ฯลฯ เลือกซื้อเต้าหู้ที่ทำใหม่ๆในช่วงเช้า มีสีขาวนวล ไม่มีเมือก เคล็ดลับต้องนำไปต้มจนสุกลอยแล้วทอดจนเหลืองก่อนนำไปใช้ทำอาหาร เนื้อเต้าหู้จะแน่นอร่อยยิ่งขึ้น เวลาผัดหรือต้มเคี่ยวนานๆ เต้าหู้จะยังคงเป็นชิ้น ไม่เละ เต้าหู้แข็งอาจใช้แทนหมูสับก็ได้ เพียงยีเนื้อเต้าหู้ที่ต้มให้เป็นชิ้นเล็กแล้วทอดฉ่าในน้ำมันมากและร้อน เต้าหู้จะฟูและเหลืองกรอบ ถ้าทำลาบให้ต้มหรือนึ่งพอร้อนแล้วนำมายีเป็นชิ้นเล็กๆ คั่วพอแห้งและมีกลิ่นหอมเล็กน้อย ทำลาบหรือยำจะได้รสชาติที่เข้มข้น

- เต้าหู้ชนิดขาวแข็ง (momengoshi) ทำจากน้ำเต้าหู้ผสมกับดีเกลือ (แมกนีเซียมซัลเฟต) ที่ช่วยทำให้เกิดการตกตะกอนเมื่อตกตะกอนแล้วจึงนำไปใส่ในผ้าขาวที่ปูอยู่ในบล็อก พอสะเด็ดน้ำแล้วจึงห่อให้เป็นก้อนแล้วทำให้สะเด็ดน้ำอีกครั้งก็จะได้เป็นเต้าหู้ขาวแข็ง

 เต้าหู้ชนิดขาวแข็ง


- เต้าหู้ชนิดเหลืองแข็ง วิธีการทำนำเต้าหู้ขาวแข็งไปหมักในเกลือแล้วจึงนำไปต้ม พร้อมทั้งใส่ขมิ้นให้เป็นสีเหลืองเคลือบบริเวณผิวของเต้าหู้ทำให้เนื้อเต้าหู้ชนิดนี้แข็ง มีความยืดหยุ่นกว่า และมีรสชาติเค็มกว่าชนิดขาวแข็ง ส่วนใหญ่นำไปทำ ผัดไทย หมี่กะทิ ผัดถั่วงอก ผัดขลุกขลิกน้ำพริกเผาหรือนำไปผสมเป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวหลอด
 
เต้าหู้ชนิดเหลืองแข็ง

- เต้าหู้ชนิดทอด มีส่วนประกอบคล้ายกับเต้าหู้ขาวแข็งแต่มีสัดส่วนและเทคนิคที่แตกต่างกัน เนื้อสัมผัสที่ได้จากเต้าหู้ชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มกว่าเต้าหู้ขาวแข็ง เมื่อนำไปทอดแล้วจะพองตัวมากกว่าและภายในจะมีเนื้อเต้าหู้อยู่ไม่พองหรือกลวง โดยมากจะใส่ในอาหารประเภทต้ม (พะโล้ ต้มผัดจับฉ่าย แกงต่างๆ และลูกชิ้นแคะ)

เต้าหู้ชนิดทอด

- เต้าหู้ชนิดซีอิ๊วดำ เต้าหู้ซีอิ้ว หรือเรียกว่า "เต้าหู้ดำ" คือเต้าหู้ขาวต้มกับน้ำซีอิ้ว ผงพะโล้   และสมุนไพรต่างๆ เนื้อเต้าหู้จึงมีสีดำ มีรสหวาน เนื้อแน่น ใช้กินสด หรือใส่ในก๋วยเตี๋ยวหลอด เปาะเป๊ยะสด เป็นต้น ควรล้างน้ำก่อนนำมาทำอาหาร 

วิธีทำนำเต้าหู้ชนิดเหลืองแข็งไปเคี่ยวกับซีอิ๊วดำและเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมและรสชาติที่แตกต่างโดยใส่น้ำตาลทรายแดงทำให้มีรสชาติที่กลมกล่อมสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าเต้าหู้ชนิดอื่นๆ เพราะมีความชื้นน้อย ถ้าเก็บใส่ช่องฟรีซจะเก็บไว้ได้นานหลายเดือน นิยมนำไปยำกับเกี้ยมไฉ่ ผัดกับดอกกุยช่าย ใส่ในอาหารเจแทนเนื้อหมูในพะโล้เจหรือทานเป็นอาหารว่างก็ได้

เต้าหู้ซีอิ๊วดำ

เต้าหู้หลอด
เต้าหู้หลอด เป็นเต้าหู้อ่อนที่บรรจุในถุงพลาสติกเป็นหลอด เป็นเต้าหู้เนื้อนิ่มมี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ทำมาจากถั่วเหลืองล้วน และชนิดที่ทำจากไข่ไก่ (เรียกว่าเต้าหู้ไข่ ซึ่งไม่มีส่วนผสมของถั่วเหลืองแต่อย่างใด) นิยมนำมาใส่ในแกงจืด สุกียากี้ ทำเต้าหู้อบ เต้าหู้ตุ๋น หรือนำมาคลุกกับแป้งข้าวโพดแล้วทอดทำเป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง ทำเต้าหู้น้ำแดง หรือทำปลาเค็มเจ หรือจะยำก็อร่อย เลือกซื้อที่สดใหม่ ดูจากวันผลิตและวันหมดอายุ

เต้าหู้หลอด : เต้าหู้ไข่(ซ้าย) และ เต้าหู้ถั่วเหลือง (ขวา)

ฟองเต้าหู้
ฟองเต้าหู้ คือฝ้าหรือเยื่อที่ได้มาจากการต้มน้ำนมถั่วเหลืองให้มีความร้อนและความเข้มข้นในระดับที่เหมาะสม ทำให้ไขมันและโปรตีนของถั่วเหลืองจับตัวกันเป็นฝ้า และสะสมหนาขึ้นจนเป็นแผ่นฟิล์มบางๆที่ผิวหน้าของของเหลว จากนั้นจึงใช้ไม้ยาวตักแผ่นฟิล์ม ซึ่งเรียกว่า "ฟองเต้าหู้สด" (หรือเปียก) ขึ้นมา สามารถนำไปปรุงอาหารได้ทันทีหรืออาจนำแผ่นฟิล์มที่ได้มาตากหรืออบจนแห้ง ก็จะได้แผ่นฟองเต้าหู้ที่สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน

ผู้ที่คิดค้นการทำแผ่นฟองเต้าหู้และนำมาใช้ทำอาหารเป็นพวกแรกคือ พระสงฆ์ในศาสนาพุทธในประเทศจีน ซึ่งโดยปกติจะฉันแต่อาหารมังสวิรัติ แต่เพื่อให้อาหารประเภทนี้มีความน่ากินมากยิ่งขึ้นสำหรับบุคคลทั่วไปจึงได้คิดนำฟองเต้าหู้มาดัดแปลงทำเป็นเนื้อสัตว์เทียม (Mock Meat) โดยการนำแผ่นฟองเต้าหู้ห่อไส้ซึ่งทำจากฟองเต้าหู้สับหยาบผสมกับเครื่องปรุงรสต่างๆ จากนั้นนำไปนึงจนกระทั่งจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้มีลักษณะคล้ายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการพัฒนาโดยนำฟองเต้าหู้สับผสมกับเครื่องปรุง แล้วอัดลงในแม่พิมพ์รูปเนื้อสัตว์หรือเครื่องในสัตว์ นำไปนึง เมื่อถอดออกจากพิมพ์ก็จะได้เนื้อสัตว์เทียมและเครื่องในสัตว์เทียมสำหรับนำไปปรุงอาหารต่อไป

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ฟองเต้าหู้มีจำหน่ายและใช้กันมากในประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวันและฮ่องกง สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆคือ แบบสด แบบกึ่งแห้ง และแบบแห้ง โดยรูปแบบและลักษณะของผลิตภัณฑ์ฟองเต้าหู้มีความหลากหลายมากขึ้น กล่าวคือนอกจากจะทำเป็นแผ่นบางๆแล้ว ยังมีชนิดแท่งม้วนรูปตัววี (คล้ายแขนงไผ่) ชนิดแผ่นซ้อนกันหลายๆชั้น ชนิดผูกเป็นปม ชนิดป่นเป็นผง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปปรุงอาหารชนิดต่างๆ

ฟองเต้าหู้ แผ่นโปรตีนของถั่วเหลืองที่ได้จากการต้มน้ำเต้าหู้ (ต้มน้ำเต้าหู้จนเดือด ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่เมื่อความร้อนขึ้นสู่ผิว ไขมันจานมถั่วเหลืองจะลอยขึ้นปกคลุมด้านบนเป็นแผ่น) แบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกันดังนี้

สำหรับผลิตภัณฑ์ฟองเต้าหู้ที่มีวางจำหน่ายในเมืองไทยมักจะมี 2 ลักษณะคือ
แบบที่ 1 :  เป็นแผ่นบาง เรียกว่า "หู่เมาะ" นิยมใช้ห่ออาหาร เช่น แฮ่กึ๊น หอยจ๊อ และ
แบบที่ 2 : แบบเป็นเส้นหนาตากแห้ง เรียกว่า "หู่กี่" ซึ่งนำไปใส่ในแกงจืด ผัดโป๊ยเซียน หรืออบ ทอดกรอบแล้วทำเป็นผัดพริกขิง

- ฟองเต้าหู้สด (Fresh Bean Curd Skin) มีรสอร่อยในตัว กลิ่นหอมเนื้อนุ่มนิยมทำเป็นแผ่น ใส่ในแกงจืด ยีเป็นชิ้นเล็กใส่ในไข่เจียว ฟองเต้าหู้แบบม้วนเป็นเส้นจะนำมาม้วนขดเป็นก้นหอยหรือผูกโบ แล้วนำไปทอดจนฟูเหลืองกรอบ กินกับซีอิ้วหรือซอสพริกเป็นอาหารว่าง จิ้มนมข้นหวานทานแบบโรตีหรือผัดเปรียวหวาน ฟองเต้าหู้สดแบบม้วนหาซื้อได้ที่ร้านขายเต้าหู้กระดานที่ทำเองในตลาดสด เก็บรักษาโดยนำมาแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งสามารถเก็บไส้ได้นานถึง 1 เดือน โดยไม่ต้องระวังน้ำเข้า เวลาใช้ปรุงอาหารนำออกมาพักไว้ให้ละลาย ฟองเต้หู้จะคืนตัว ไม่ฝ่อ ไม่มีน้ำแข็งเกาะเหมือนแช่เนื้อสัตว์


ฟองเต้าหู้สด (Fresh Bean Curd Skin)

ฟองเต้าหู้สดแบบม้วน


- หู่กี เป็นฟองเต้าหู้สดยีเป็นชิ้นเล็ก บ้างก็ปรุงรสแต่งสี ใส่สาหร่ายดพิ่มรส บ้างก็ไม่ใส่อะไรเลย แล้วนำมามัดอัดตัวเป็นรูปทรงต่างๆ คล้ายหมูยอ หรือมัดเป็นลูกคล้ายฟักทอง หรืออัดใส่พิมพ์เป็รรูปเป็ด ไก่ ปลา ตับ แฮม เป็นต้น การมัดอัดทำให้เนื้อฟองเต้าหู้ผสานกันแน่นขึ้นช่วยทวีความอร่อยในการนำไปปรุงอาหารอน่างอื่น เช่น ต้มซีอิ้ว พะโล้

- หู่เมาะ  ฟองเต้าหู้แผ่นใหญ่ มีแบบผึ่งหมาดกับอบแห้ง ใ้ช้ในการห่อฮ่อยจ้อ แฮกึ๊นเปาะเปี๊ยะ เผือกม้วน ผักกาดม้วน เป็นต้น

- ฟองเต้าหู้อบแห้ง (Dried Bean Curd Skin) มี 3 แบบด้วยกันคือ แบบพอง แบบเส้น และแบบหวาน ฟองเต้าหู้แบบพอง ทอดฟูและพองดีโรยด้วยเกลือเอาไว้กินเล่นหรือทำกับข้าวได้แต่ควรทอดไม่ควรแข่น้ำเพราะเนื้อจะเหนียว ดีมากสำหรับการทำพะโล้เพราะเนื้อไม่เละ เลือกซื้อฟองเต้าหู้ที่มีสีเหลืองนวล ถ้าใช้ไม่หมดเก็บในอุณหภูมิห้องได้ อย่าให้ถูกแดดหรือโดนความชื้น ไม่ควรเก็บนานเกิน 4 เดือน

เต้าหู้พวง
เต้าหู้พวง หรือ เต้าหู้สาย  เป็นเต้าหู้แข็งชิ้นเล็กนำมาทอดจนเหลืองพอง เนื้อข้างในโปร่ง แล้วร้อยเป็นพวงๆ หรือเป็นสายขาย ใส่ในก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ พะโล้ กวยจั๊บต้มซีอิ้ว ฯลฯ เลือกซื้อที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ไม่มันมาก ไม่สกปรก ก่อนใช้ให้นำไปล้างด้วยน้ำชา หรือลวกเพื่อเอาน้ำมันออกบ้าง เป็นเต้าหู้หั่นเป็นชิ้นแล้วทอด ร้อยเชือกขายเป็นพวงใช้ใส่ในก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟและพะโล้

เต้าหู้พวง

เต้าหู้ญี่ปุ่น
เต้าหู้ญี่ปุ่น นิยมใช้เต้าหู้อ่อนหรือเต้าหู้ที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน เพราะเนื้อเต้าหู้นิ่มเป็นพิเศษ มีเนื้อสีขาวนวล และมีเต้าหู้แบบแข็งด้วย บรรจุในกล่องสี่เหลี่ยมห่อพลาสติกเรียบร้อย เต้าหู้ญี่ปุ่นชนิดอ่อนใส่ในซุป แกงจืด ผัด ทอด สุกี้ ปั่นเป็นซอสหรือน้ำสลัดได้ดี หรือปั่นใส่ไข่ตุ๋น หรือทับเอาน้ำออกยีปรุงรส นำมาห่อสาหร่าย นึ่งสุกแล้วคลุกกับเกร็ดขนมปังทอดกรอบ เป็นต้น เลือซื้อเต้าหู้ที่สดใหม่ดูจากวันผลิตและวันหมดอายุ ควรล้างก่อนนำมาปรุงอาหาร เพราะเต้าหู้จะมีเมือกเล็กน้อย นอกจากนี้เต้าหู้ญี่ปุ่นยังมีเต้าหู้ทอดชนิดต่างๆ ด้วย เช่น เต้าหู้ทอดชนิดบาง เอามายัดไส้และเต้าหู้ทอดชนิดหนา เอามาต้มตุ๋นใส่บะหมี่ต่างๆ

- เต้าหู้โมเมน เป็นการผลิตแบบญี่ปุ่น เต้าหู้ชนิดนี้เนื้อค่อนข้างแข็งแน่น นำไปปรุงเป็นอาหารได้เหมือนเต้าหู้ขาวแข็ง

เต้าหู้โมเมน 

- เต้าหู้คินุ เป็นการผลิตแบบญี่ปุ่นเช่นกัน เนื้อเหมือนเต้าหู้ขาวอ่อนสามารถนำไปประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับเต้าหู้ขาวอ่อน

เต้าหู้คินุ

เต้าฮวย
เต้าฮวย เป็นเต้าหู้นิ่มที่ไม่ได้เอาน้ำออก ทำจากน้ำเต้าหู้ใส่ "เจี๊ยะกอ" (หินเต้าหู้หรือแคลเซี่ยมซัลเฟต) เพื่อให้น้ำเต้าหู้จับกันเป็นเต้าหู้นิ่มๆ นิยมกินตอนอุ่นๆ กับซีอิ้ว ใส่แกงจืด กินกับน้ำขิงปาท่องโก๋ ปั่นทำเป็นซอสหรือน้ำสลัด หรือใส่ไข่ตุ๋น เลือกซื้อที่ทำสดใหม่ เนื้ออ่อนกลิ่นหอม


Friday, October 5, 2012

เมนูอาหารเจ : ลาบเต้าหู้เจ (Spicy Tofu Thai Salad - Lahb)


สูตรการทำลาบเต้าหู้แบบง่าย สูตร ของร้าน เลมอนฟาร์ม แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม ทางร้านได้แนะนำลูกค้าทานอาหารมังสะวิรัตทางแบบของ หมู่บ้านพลัม ฝรั่งเศส ของหลวงปู่ ติกทัชฮัน พระภิกษุชื่อดังชาวเวียตนาม อาหารล้วนเป็นมังสะวิรัติ ที่ชุมชนในวัด และหมู่บ้าน กว่า 1 ล้าน คน ล้วนทานอาหารมังสะวิรัติ

เต้าหู้ ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะโปรตีนซึ่งให้โปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึง 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน มีราคาถูก และยังมีเลซิตินอีกด้วย ซึ่งเลซิตินนี้มีผลในการลดไขมันและช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ รวมทั้งฮอร์โมนจากพืชที่เรียกว่า "ไฟโตเอสโทรเจน" ที่มีการวิจัยพบว่า มีผลในการป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อผู้หญิงวัยทอง โดยจะช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือน และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้มนม

เต้าหู้ เหมาะกับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่วัย 40 ปีขึ้นไป เพราะเต้าหู้จะช่วยให้ระบบการย่อยในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น เมนูสุขภาพในวันนี้เราจึงขอแนะนำเต้าหู้ชนิดแข็ง มาทำเป็นลาบ ทำได้ง่าย ไม่อยากเลย แถมยังอร่อยอีกด้วยค่ะ

เมนูอาหารเจ : ลาบเต้าหู้เจ
Spicy Tofu Thai Salad (Lahb)



เครื่องปรุง

- เต้าหู้ขาวชนิดแข็ง : 2 ก้อน
- เห็ดหูหนูดำลวกหั่น : 3 ดอก
- ต้นหอมซอย : 2 ต้น
- หอมแดงซอย : 3 ลูก
- ผักชีฝรั่ง : 2 ต้น
- สะระแหน่เด็ดใบ : 2 ต้น
- ข้าวคั่ว : 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว : 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว : 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น : 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า : 5 ช้อนโต๊ะ





วิธีทำ

1. นำเต้าหู้ขาวชนิดแข็งมาบี้ให้ละเอียด
2. เติมน้ำเปล่า ตั้งไฟอ่อน ใส่เห็นหูหนูลงไป แล้วคั่วจนเต้าหู้และเห็ดสุกดี จึงปิดไฟ
3. จากนั้นใส่เครื่องปรุง ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว และพริกป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วชิมรสตามชอบ
4. เมื่อได้รสชาติตามชอบแล้ว จึงใส่ ต้นหอม หอมแดง ผักชีฝรั่ง และตบท้ายด้วยข้าวคั่ว คลุกให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง
5. ตักใส่จานโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสริ์ฟ กินแนมกับผักสด เช่น แตงกวา ใบสะระแหน่ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว เป็นต้น



Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...