Wednesday, November 30, 2011

กินอะไรดี? เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่

“อาหารคือยา” นับเป็นคำกล่าวที่สะท้อนถึงความเชื่อในพลังแห่งการเยียวยาของอาหาร คนสมัยโบราณจึงกินอาหารตามฤดูกาล เพราะเชื่อว่าเหมาะกับสภาพร่างกายในช่วงนั้น เช่น กินแตงโมในหน้าร้อน เพื่อเติมน้ำให้กับร่างกาย และไม่ต้องใช้พลังงานในการย่อยมาก หรือกินซุปร้อนๆ ในหน้าหนาว เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น แล้วสำหรับหน้าฝนซึ่งไข้หวัดมักถามหาอย่างเช่นตอนนี้ เราควรจะกินอะไรกันดี ร่างกายจึงจะแข็งแรง ปลอดหวัด



กินอะไรดี เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่
(What to Eat When You Have the Flu)



รู้จักประโยชน์ของสารอาหาร
สารอาหารเป็นส่วนประกอบพิเศษของอาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ร่างกายเติบโต และแข็งแรง สารอาหารประกอบด้วยวิตามิน เกลือแร่ กรดไขมัน กรดอะมิโน และน้ำ รวมถึงแหล่งของพลังงาน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สารอาหารบางอย่างร่างกายสร้างเองได้ แต่ก็มีสารอาหารอีกหลายชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร ด้วยเหตุนี้การขาดสารจึงนำไปสู่การเจ็บป่วยได้

โปรตีน อาหารพื้นฐานสำคัญ
ไม่ว่าคุณจะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ก็ตาม โปรตีนจัดเป็นสารอาหารจำเป็นที่จะช่วยรักษาและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยเนื้อแดงที่ไม่มีไขมัน เนื้อสัตว์ปีก ปลา พืชตระกูลถั่ว ผลิตภัณฑ์นม ไข่ และถั่วต่างๆ ถือว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี สำหรับปริมาณโปรตีนที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน คือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ผู้หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรต้องการโปรตีนมากขึ้นอีก 6 กรัมต่อวัน

นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง จะทำให้เราได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ อย่างเช่นวิตามินบี6 และวิตามินบี 12 ซึ่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง โดยวิตามินบี 6 จะอยู่ในอาหารโปรตีนจำพวกถั่ว เนื้อวัว รวมถึงยังพบในมันฝรั่ง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ธัญพืช (เช่น เมล็ดทานตะวัน ข้าว) ส่วนวิตามินบี 12 มีในเนื้อแดง ตับ นม ปลา เต้าเจี้ยว น้ำปลา กะปิ

ซีลีเนียม (selenium) และสังกะสี ก็เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยรักษาระบบภูมิคุ้นกันให้แข็งแรงด้วย โดยอาหารโปรตีนที่มีแร่ธาตุทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ ถั่ว เนื้อวัว และสัตว์ปีก

ฟลาโวนอยด์เสริมภูมิต้านทาน
สารฟลาโวนอยด์เป็นหนึ่งในสารอีก 4,000 ชนิดที่ทำให้ผักและผลไม้มีสีต่างๆ โดยมีการค้นพบว่าสารฟลาโวนอยด์ที่พบในรกส้ม (เยื่อขาวๆ ที่กลีบส้ม) จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งก่อให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ยังพบฟลาโวนอยด์ในมะนาวอีกด้วย

สารอาหารที่ช่วยต่อต้านการติดเชื้อ
สารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อ คือกลูตาไธโอน (glutathione) ซึ่งมีมากในเนื้อแตงโม และยังพบในพืชตระกูลผักกาด เช่น คะน้า กะหล่ำปลี บรอคโคลี

อาหารที่ควรกินและหลีกเลี่ยงเมื่อมีน้ำมูก
สำหรับบางคน ผลิตภัณฑ์นมจะทำให้ร่างกายผลิตน้ำมูกมากขึ้น ถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์จากนมสัก 2-3 วัน ที่สำคัญผลิตภัณฑ์นมอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนหนักขึ้นได้

ขณะที่น้ำส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำส้มที่มีเนื้อส้มด้วยจะอุดมด้วยวิตามินซีและกรดโฟลิก ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น นักวิจัยบางคนจึงแนะนำว่า วิตามินซี น่าจะมีส่วนช่วยลดเวลาป่วยจากหวัดและไข้หวัดใหญ่

อาหารและเครื่องดื่มเมื่อมีอาการคลื่นไส้
วิธีที่ดีที่สุด เมื่อคุณรู้สึกคลื่นไส้ หรืออาเจียนตอนเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ คืองดการกินอาหาร แต่ควรจิบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ รวมถึงควรจะดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำผลไม้ น้ำซุปผัก น้ำขิง เครื่องดื่มเกลือแร่ โดยเริ่มจากปริมาณน้อยๆ เช่น ครั้งละ 1 แก้ว (120-240 ซีซี) สำหรับผู้ใหญ่ หรือ 30 ซีซี (หรือน้อยกว่า) สำหรับเด็ก

นอกจากนี้การดื่มชา(ที่ปราศจากกาเฟอีน)ผสมกับน้ำผึ้ง ก็จะช่วยเคลือบลำคอและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ดี จำไว้ว่าเครื่องดื่มอุ่นๆ จะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งมากกว่าการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ และหากกระเพาะอาหารของคุณทำงานได้ดีขึ้นก็ควรลองรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีรสจืด เช่น กล้วย ข้าวต้มอ่อนๆ เพื่อทำให้ระบบการย่อยอาหารกลับมาทำงานได้ตามปกติ และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร

ซุปไก่ช่วยแก้หวัดได้เหมือนกัน
วารสาร Chest ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยที่ยืนยันว่า ซุปไก่มีผลช่วยในการต่อต้านการติดเชื้ออย่างอ่อนๆ ได้ จึงช่วยลดการติดเชื้อบริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ จมูก คอหอย กล่องเสียง ฉะนั้นเมื่อคนในบ้านเป็นหวัด คุณแม่อาจจะลงมือเคี่ยวน้ำซุปให้กินอุ่นๆ ก็น่าจะช่วยได้เยอะทีเดียว

ที่สำคัญเมื่อฟื้นไข้แล้ว ก็อย่าลืมรับประทานอาหารที่หลากหลาย อุดมไปด้วยผักผลไม้หลากสีสัน รวมถึงพืชตระกูลถั่วที่อุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ที่สำคัญควรเข้านอนแต่หัวค่ำ และนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมง เพื่อที่สุขภาพจะได้กลับมาแข็งแรงดังเดิม

ถ้าออกกำลังกายได้อีกอย่างก็จะช่วยให้ร่างกายของคุณปลอดภัยจากหวัดได้มากขึ้น



credit: http://www.healthtoday.net
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...